วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

การป้องกันภัยจากอินเตอร์เน็ต


ทันภัยการใช้ Internet


ข้อควรปฏิบัติในการใช้อินเทอร์เน็ตให้ปลอดภัย


ข้อควรปฏิบัติทั่วไปในการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยมีดังนี้
.1. การตั้งกระทู้ หรือตอบกระทู้ ควรใช้คำที่สุภาพ และไม่สร้างความเดือดร้อน ให้กับผู้อื่
2. ไม่ควรให้ชื่อบัญชีผู้ใช้ (User Account) อินเทอร์เน็ตกับบุคลอื่นไปใช้งาน และควรเปลี่ยนพาสเวิร์ดอย่างน้อยทุกๆ 1 เดือน การตั้งพาสเวิร์ดใหม่ ควรมีอักขระไม่ต่ำกว่า 7-8 ตัวโดยใช้ตัวเลขผสมตัวอักษร เช่น “255wcit1” ถ้าในกรณีที่รู้ว่าบัญชีผู้ใช้ของตนเองมีปัญหาในการใช้งาน ให้ติดต่อศูนย์คอมพิวเตอร์หรือผู้ให้บริการทันที
3. ระวังการชำระเงินในการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพราะอาจจะมีผู้อื่น คอยดักจับเลขที่บัตรเครดิตขณะที่กำลังใช้งานได้ ดังนั้นควรตรวจสอบระบบความปลอดภัยของเว็บไซต์นั้นๆ ว่ามีระบบความปลอดภัยหรือไม่ ก่อนทำการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์
4ควรทำการตรวจสอบระบบความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างสม่ำเสมอ เช่น Windows Internet Explorer, Firefox, Chromeเป็นต้น
5. ทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสบนเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 1 โปรแกรม
6. ไม่ควรดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
7. ไม่ควรคลิกรับโปรแกรม หรือเปิดไฟล์ต่าง ๆ จากบุคคลอื่นที่ไม่รู้จักผ่านการใช้งานโปรแกรมแชทหรือโปรแกรมแชร์ไฟล์ต่างๆ  รวมทั้งทางอีเมล์ และไม่ควรรับไฟล์ใด ๆ แม้จากคนที่เรารู้จักหากไม่ได้รับการยืนยันจากผู้ส่งว่าได้ส่งไฟล์มา เพราะปัจจุบันมีไวรัสหรือมัลแวร์ที่สามารถปลอมตัว หรือใช้โปรแกรมของผู้ส่งไปยังผู้รับได้ เมื่อรับมาก็คือการรับไวรัสเข้ามายังเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นเอง
8. ควรระมัดระวังในการใช้อีเมล์ของตนเองลงทะเบียนตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะอาจจะทำให้ได้รับจดหมายขยะจากเว็บไซต์โฆษณาสินค้าหรือเว็บไซต์ที่มีไวรัส
9. ถ้าต้องการความปลอดภัยสูงขึ้นในการใช้งานอินเทอร์เน็ต สามารถติดตั้งโปรแกรมไฟร์วอลล์ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันผู้บุกรุกจากภายนอกเข้าสู่เครื่องผู้ใช้                            

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บริการต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต


1. World Wide Web (WWW) เครือข่ายใยแมงมุม
          เป็นการเข้าสู่ระบบข้อมูลอย่างข้อมูลในรูปของ Interactive Multimedia คือ มีทั้งรูปภาพ ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว เสียง และวีดีโอ อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยังใช้ระบบที่เรียกว่า hypertext กล่าวคือ จะมีคำสำคัญหรือรูปภาพในข้อมูลนั้นที่จะช่วยให้ท่าน เข้าสู่รายละเอียดที่ลึกและกว้างขวางยิ่งขึ้น คำสำคัญดังกล่าวจะเป็นคำที่เป็นตัวหนา หรือขีดเส้นใต้ เพียง แต่ท่านเลือกกด ที่คำ ที่เป็นตัวหนาหรือขีดเส้นใต้ นั้น ๆ ท่านก็สามารถเข้าสู่ข้อมูลเพิ่มเติมได้ (ข้อมูลเหล่านี้จะมีผู้สร้างขึ้นมาและเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ต่าง ๆ ทั่วโลก)
                        

2. ไปรษณีย์อิเลคทรอนิคส์ (Electronic Mail หรือ E-Mail)

    เป็นบริการหนึ่งบนอินเทอร์เนตที่คนนิยมใช้กันมากคือส่งจดหมายโดยทางคอมพิวเตอร์ถึงผู้ที่มีบัญชีอินเตอร์เน็ต ด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลคนละซีกโลกจดหมายก็จะไปถึงอย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดายโปรแกรมที่ใช้ ได้แก่
Hotmail  , Yahoo Mail , Thai Mail และยังมี Mail ต่าง ๆ ที่ให้บริการอย่างมากมายในปัจจุบัน ตามหน่วยงานหรือ
องค์กรต่าง ๆ
                                      
3. Search Engine  (บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต)          Search Engine เป็นเว็บไซต์ที่มีเครื่องมือในการที่จะค้นหาเว็บไซต์ต่าง ๆ มาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ     ตัวเองโดยอัตโนมัติ เช่น Google.com หรือ Altavista.com ซึ่งเครื่องมือนี้ มีชื่อเรียกว่า Search Robot     จะทำหน้าที่คอยวิ่งเข้าไปอ่านข้อความจากหน้าเว็บไซต์ ของเว็บต่าง ๆ แล้วนำมาจัดลำดับคำค้นหา (Index)     ที่มีในเว็บไซต์เหล่านั้น เก็บไว้ในฐานข้อมูลของตนเอง เมื่อเราเข้าไปใช้บริการ
กับ Search Engine 
                                     

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

ภาษาปาสคาล



ภาษาปาสคาล

ความหมายของภาษาปาสคาล

งานเขียนโปรแกรม คือ  การเรียบเรียงคำสั่งที่เราต้องการให้เครื่องปฏิบัติตามเงื่อนไข  และขั้นตอนก่อนหลังที่ต้องการให้เครื่อปฏิบัติภาษาปาสคาล  (Pascal)  เป็นภาษาที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นภาษาสำรหัสเรียนเขียนโปรแกรม  โดย  ดร.เวียรต์ (Professor  Doctor  Niklaus  Wirth)  แห่ง  Swiss  Federal  Institute  of  Technology  เป็นผู้สร้างภาษานี้เมื่อประมาณปี  พ.ศ.2514  ได้กล่าวว่า  "เพื่อให้มีภาษาสำหรับฝึกเขียนโปรแกรมอย่างมีระบบและมีระเบียบ  จึงได้สร้างภาษานี้ขึ้นมา"แต่ตัวภาษาปาสคาลเองก็มีสมรรถนะไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าภาษาสูงอื่น ๆ และดีกว่าอีกหลายภาษาด้วย  การศึกษาภาษาปาสคาลจึงได้ทั้งภาษาที่จะใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรงและวิธีการเขียนโปรแกรมที่ถูกต้องเพื่อนำไปใช้ในการเขียนโปรแกรมในภาษาสูงอื่นและภาษาเครื่อง  รวมทั้งซอฟต์แวร์กึ่งสำเร็จรูป  เช่น   dBASE  ต่อไปได้ชื่อของภาษาคือคำว่า  Pascal  ก็แตกต่างกับภาษาอื่น  ที่ส่วนมากเป็นคำย่อ  เช่น  BASIC  ย่อมาจาก  Beginners'  All-purpose  Symbolic  Instruction  Code  ส่วน  FORTRAN  ย่อมาจาก  Formula  Translation   คำว่า  Pascal  ดร.เวียร์ต  ได้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่  Blaise  Pascal  (พ.ศ.2165 - 2205) นักคณิตศาสตร์และปรัชญาเมธีชาวฝรั่งเศสผู้สร้างเครื่องคิดเลขเครื่องแรกของโลกตัวภาษา  Pascal  ได้พัฒนามาจากภาษา  ALGOL  (Algoritmic  Language)  จึงมีส่วนคล้ายกันมาก  นอกจากนี้ ดร.เวียร์ตยังได้พัฒนาภาษาต่อจากภาษาปาสคาลให้ชื่อว่า  MODULA2  กระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ใช้ภาษา Pascal  เป็นพื้นฐานในการพัฒนาภาษาใหม่โดยให้ชื่อว่า  Ada  (เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิง  Ada  Agusta  Lovelace  นักเขียนโปรแกรมคนแรกของโลก)  ซึ่งคาดว่าจะเป็นภาษาที่สำตัญและจะใช้กันอย่างแพร่หลายในอนาคต  แต่เป็นภาษาที่ใหญ่โครงสร้างซับซ้อน  การศึกษาภาษา  Pascal  จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจำเป็นสำหรับปัจจุบันเพื่ออนาคต


วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 

1. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หมายถึง

หมายถึง คำสั่งคอมพิวเตอร์ชุดหนึ่ง ๆ ที่เขียนขึ้นเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง เช่น ภาษาซี (C) ภาษาโคบอล (COBOL) ภาษาเบสิก (BASIC) หรือ ภาษาแอสเซมบลี (Assembly) ฯ คำ "โปรแกรม" นี้ อาจจะเรียกเป็นชื่ออื่นก็ได้ เช่น ซอฟต์แวร์ (software) หรือ แอพพลิเคชัน (application) โปรแกรมนั้น แบ่งได้เป็นหลายประเภท ประเภทแรกคือประเภทที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเองเพื่อให้ตรงกับความต้องการ กับอีกประเภทหนึ่งมีคนทำสำเร็จรูปไว้ขาย เช่น โปรแกรมสำหรับวาดภาพ (graphics) โปรแกรมประมวลผลคำ (word processing) โปรแกรมตารางจัดการ (spreadsheet) นอกจากนั้น ยังมีโปรแกรมระบบ (systems software) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ มีบางส่วนติดตั้งมาจากโรงงานที่ผลิตเลย และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ (operating system) ที่จะทำหน้าที่เหมือนแม่บ้านคอยดูแลให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานให้ประสานกัน สรุปว่า คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ทุกอย่าง แต่คนเขียนคำสั่งต้องเข้าใจขั้นตอน วิธี (algorithm) และภาษาที่จะใช้เป็นอย่างดี จึงจะสามารถเขียนสั่งเครื่องให้ทำงานได้

2. การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง

6 ขั้นตอน

1. การวิเคราะห์ปัญหา
2. การออกแบบโปรแกรม
3. การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
4. การทดสอบและแก้ไขโปรแกรม
5. การทำเอกสารประกอบโปรแกรม
6. การบำรุงรักษาโปรแกรม